ปัญหาหนักอย่างหนึ่งที่ทำให้หลายคนทุกหนักหนา ก็คือทรัพย์สินต่างๆที่จมไปกับน้ำ และหนึ่งในนั้นคือ รถยนต์สุดที่รักของเรานั่นเอง หลายคนคงยังเครียดและสงสัยอยู่ว่า รถที่จมน้ำไปแล้วจะเรียกเคลมประกันภัยได้หรือไม่ ก็เลยนำบทความที่น่าจะเป็นประโยชน์มาฝากกัน
กลายเป็นเรื่องระดับชาติที่ได้รับการจับตาจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับภัยน้ำท่วมที่ทำให้คนจำนวนมากนั้นต้องสูญเสียทรัพย์สินที่อยู่อาศัย และหนึ่งในหลายๆอย่างที่หายวับไปกับตาเมี่อน้ำท่วมนั้น ก็ไม่พ้นรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจำนวนมากจากภัยพิบัติครั้งนี้
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทำให้หลายคนวิตกจริต ถึงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมลดลงสภาวะสู่ปกติ แต่ที่ยิ่งไปกว่าเรื่องการฟื้นฟูคงไม่พ้นทุนรอน และกับเรื่องราวยานยนต์หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงประกันภัยที่จ่ายเบี้ยปีหนึ่งก็ไม่ใช่ถูกๆ
"รถโดนน้ำท่วม จะเคลมได้ไหม" เป็นความคิดที่หลายคน ใช้ช่วงเวลาที่นั่งดูน้ำเจิ่งนองเต็มหน้าบ้าน อย่างกับ Water World พิจารณาเพื่อหาทางออกให้กับชีวิต และวันนี้เราก็มีคำตอบมาให้เพื่อนๆได้ชื่นใจ เพราะการประกันภัยรถยนต์นั้นคลอบคลุมในเรื่องของภัยต่างๆที่เกิดกับรวมถึงเรื่องราวน้ำท่วมด้วย
หลายคนอาจจะไม่ทราบ แต่เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันนั้น การคลอบคลุมในกรณีภัยพิบัตินั้นจะเข้าข่ายการคุ้มครองก็ต่อเมื่อรถยนต์ของคุณได้มีการทำประกันภัยชั้น 1 หรือ ประเภท 1 ส่วนประกันประเภท 2, 3, 4, 5 ไม่ได้รับความคุ้มครองเรื่องความเสียหายจากน้ำท่วมรถ ดังนั้นหากทำประกันชั้น 1 ไว้ก็อุ่นใจได้ว่า คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1 ปกติที่ขายโดยทั่วไป หรือจะเป็นประกันชั้น 1 แบบประหยัดที่มีค่ารับผิดส่วนแรก ที่สมัยนี้กำลังเป็นที่นิยมกัน
หลักเกณฑ์การพิจารณาค่าสินไหมทดแทนจากน้ำท่วมนั้น ก็จะมีการแบ่งออกเป็น 2 กรณี สำคัญ โดยพิจารณาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง คือ
1.การสูญเสียโดยสิ้นเชิง หรือ total loss การสูญเสียเชิงนั้นเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยที่ได้รับการพิจารณาจากบริษัทว่า รถยนต์คันดังกล่าวไม่คุ้มที่จะซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ ซึ่ง กรณีดังกล่าวนั้นยังรวมถึงเครื่องยนต์ ที่ต้องได้รับการซ่อมแซมให้สามารถใช้ได้ดังเดิม ก่อนเกิดภัยพิบัติด้วย โดยมากบริษัทประกัน จะประเมินมูลค่าความเสียหายที่ 70 % ของมุลค่ารถคันนั้น ซึ่งหากพิจารณาจากความเสียหาย ในกรณีนี้คือ ท่วมมิดคัน หรือ ท่วมเกินช่วยคอนโซลหน้า ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับทั้งห้องโดยสาร
2.ความเสียหายบางส่วน หรือ partial loss บางครั้งน้ำท่วมนั้นสามารถสร้างความเสียหายได้มาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการประเมินของบริษัทประกันด้วยว่า มันเสียหายมากน้อยเพียงใด และถ้ารถคันนั้นไม่เสียหายมากนัก สามารถซ่อมกลับมาใช้ได้ ประกันภัยก็จะตีเป็นลักษณะความเสียหายบางส่วน
ลักษณะความเสียหายบางส่วนนั้น ถือเป็นความรับผิดชอบของประกันในการซ่อมแซมรถที่ประสบภัยให้กลับมาใช้งานได้ปกติ โดยที่ประกันภัยนั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด การคืนสภาพรถคันดังกล่าว ซึ่งรวมตั้งแต่เรื่องเครื่องยนต์กลไก ไปจนถึงการทำความสะอาดต่างๆ ไม่ว่า จะ ค่าใช้จ่ายเรื่องการซักพรม ทำความสะอาดภายใน ก็สามารถเคลมได้ทั้งสิ้น
ขั้นตอนการเคลมประกัน
ในขั้นตอนการเคลมประกันภัยนั้น ถ้าเป็นไปได้ระหว่างน้ำท่วมให้ถ่ายรูปบางส่วนเอาไว้ก่อน และหลังจากน้ำลดแล้ว ให้เราโทรเรียกประกันมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถ โดยเพื่อความสะดวกมากขึ้น อาจจะเรียกประกันนัดเจอยังแที่จะนำเข้าไปซ่อม ก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีซ่อมที่อู่กลางจะค่อนข้างได้รับความสะดวก
เมื่อประกันรับทราบเคสแล้ว ก็จะดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหาย หากรถของคุณเข้าข่ายข้อแรก ก็จะได้รับเงินจากประกัน โดยเงินจะถูกโอนไปยังผู้เอาประกัน ซึ่งบางครั้งคือไฟแนนซ์ ตรงนี้ต้องตรวจสอบให้ดี
สำหรับกรณีที่ได้รับความเสียหายบางส่วนนั้น เมื่อประกันภัยรับทราบความเสียหายได้รับใบเคลมเรียบร้อย รถเราก็จะได้รับการซ่อมแซมตามสมควร โดยเราสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ตามสมควร และเมื่อรถซ่อมเสร็จนำกลับมาใช้ หากพบปัญหา อันอาจจะเกิดจากภัยที่ได้รับมานั้น สามารถแจ้งอู่หรือประกันได้ทันที เพื่อเคลมความเสียหายต่อเนื่อง
ทั้งนี้การเคลมประกันในกรณีความเสียหายบางส่วนนั้น หากรถคุณไม่ได้มีอาการหนักมา เราสามารถไปดำเนินการด้วยตัวเอง แล้วเก็บใบเสร็จรอเคลมกับประกันก็ได้ ซึ่งจะได้รับความสะดวกมากกว่ าแต่เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังเป็นกังวลกับรถจมน้ำนั้น ก็ไม่ต้องจิตตกไป เพราะงานนี้ประกันเข้าครอบคลุม และเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทำให้หลายคนวิตกจริต ถึงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมลดลงสภาวะสู่ปกติ แต่ที่ยิ่งไปกว่าเรื่องการฟื้นฟูคงไม่พ้นทุนรอน และกับเรื่องราวยานยนต์หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงประกันภัยที่จ่ายเบี้ยปีหนึ่งก็ไม่ใช่ถูกๆ
"รถโดนน้ำท่วม จะเคลมได้ไหม" เป็นความคิดที่หลายคน ใช้ช่วงเวลาที่นั่งดูน้ำเจิ่งนองเต็มหน้าบ้าน อย่างกับ Water World พิจารณาเพื่อหาทางออกให้กับชีวิต และวันนี้เราก็มีคำตอบมาให้เพื่อนๆได้ชื่นใจ เพราะการประกันภัยรถยนต์นั้นคลอบคลุมในเรื่องของภัยต่างๆที่เกิดกับรวมถึงเรื่องราวน้ำท่วมด้วย
หลายคนอาจจะไม่ทราบ แต่เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันนั้น การคลอบคลุมในกรณีภัยพิบัตินั้นจะเข้าข่ายการคุ้มครองก็ต่อเมื่อรถยนต์ของคุณได้มีการทำประกันภัยชั้น 1 หรือ ประเภท 1 ส่วนประกันประเภท 2, 3, 4, 5 ไม่ได้รับความคุ้มครองเรื่องความเสียหายจากน้ำท่วมรถ ดังนั้นหากทำประกันชั้น 1 ไว้ก็อุ่นใจได้ว่า คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1 ปกติที่ขายโดยทั่วไป หรือจะเป็นประกันชั้น 1 แบบประหยัดที่มีค่ารับผิดส่วนแรก ที่สมัยนี้กำลังเป็นที่นิยมกัน
หลักเกณฑ์การพิจารณาค่าสินไหมทดแทนจากน้ำท่วมนั้น ก็จะมีการแบ่งออกเป็น 2 กรณี สำคัญ โดยพิจารณาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง คือ
1.การสูญเสียโดยสิ้นเชิง หรือ total loss การสูญเสียเชิงนั้นเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยที่ได้รับการพิจารณาจากบริษัทว่า รถยนต์คันดังกล่าวไม่คุ้มที่จะซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ ซึ่ง กรณีดังกล่าวนั้นยังรวมถึงเครื่องยนต์ ที่ต้องได้รับการซ่อมแซมให้สามารถใช้ได้ดังเดิม ก่อนเกิดภัยพิบัติด้วย โดยมากบริษัทประกัน จะประเมินมูลค่าความเสียหายที่ 70 % ของมุลค่ารถคันนั้น ซึ่งหากพิจารณาจากความเสียหาย ในกรณีนี้คือ ท่วมมิดคัน หรือ ท่วมเกินช่วยคอนโซลหน้า ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับทั้งห้องโดยสาร
2.ความเสียหายบางส่วน หรือ partial loss บางครั้งน้ำท่วมนั้นสามารถสร้างความเสียหายได้มาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการประเมินของบริษัทประกันด้วยว่า มันเสียหายมากน้อยเพียงใด และถ้ารถคันนั้นไม่เสียหายมากนัก สามารถซ่อมกลับมาใช้ได้ ประกันภัยก็จะตีเป็นลักษณะความเสียหายบางส่วน
ลักษณะความเสียหายบางส่วนนั้น ถือเป็นความรับผิดชอบของประกันในการซ่อมแซมรถที่ประสบภัยให้กลับมาใช้งานได้ปกติ โดยที่ประกันภัยนั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด การคืนสภาพรถคันดังกล่าว ซึ่งรวมตั้งแต่เรื่องเครื่องยนต์กลไก ไปจนถึงการทำความสะอาดต่างๆ ไม่ว่า จะ ค่าใช้จ่ายเรื่องการซักพรม ทำความสะอาดภายใน ก็สามารถเคลมได้ทั้งสิ้น
ขั้นตอนการเคลมประกัน
ในขั้นตอนการเคลมประกันภัยนั้น ถ้าเป็นไปได้ระหว่างน้ำท่วมให้ถ่ายรูปบางส่วนเอาไว้ก่อน และหลังจากน้ำลดแล้ว ให้เราโทรเรียกประกันมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถ โดยเพื่อความสะดวกมากขึ้น อาจจะเรียกประกันนัดเจอยังแที่จะนำเข้าไปซ่อม ก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีซ่อมที่อู่กลางจะค่อนข้างได้รับความสะดวก
เมื่อประกันรับทราบเคสแล้ว ก็จะดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหาย หากรถของคุณเข้าข่ายข้อแรก ก็จะได้รับเงินจากประกัน โดยเงินจะถูกโอนไปยังผู้เอาประกัน ซึ่งบางครั้งคือไฟแนนซ์ ตรงนี้ต้องตรวจสอบให้ดี
สำหรับกรณีที่ได้รับความเสียหายบางส่วนนั้น เมื่อประกันภัยรับทราบความเสียหายได้รับใบเคลมเรียบร้อย รถเราก็จะได้รับการซ่อมแซมตามสมควร โดยเราสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ตามสมควร และเมื่อรถซ่อมเสร็จนำกลับมาใช้ หากพบปัญหา อันอาจจะเกิดจากภัยที่ได้รับมานั้น สามารถแจ้งอู่หรือประกันได้ทันที เพื่อเคลมความเสียหายต่อเนื่อง
ทั้งนี้การเคลมประกันในกรณีความเสียหายบางส่วนนั้น หากรถคุณไม่ได้มีอาการหนักมา เราสามารถไปดำเนินการด้วยตัวเอง แล้วเก็บใบเสร็จรอเคลมกับประกันก็ได้ ซึ่งจะได้รับความสะดวกมากกว่ าแต่เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังเป็นกังวลกับรถจมน้ำนั้น ก็ไม่ต้องจิตตกไป เพราะงานนี้ประกันเข้าครอบคลุม และเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น